รองเท้าเซฟตี้ถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่เท้า เช่น งานก่อสร้าง งานอุตสาหกรรม งานคลังสินค้า หรือแม้แต่งานบริการที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน การเลือกประเภทของรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมกับงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรองเท้าแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและข้อจำกัด
ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างรองเท้าเซฟตี้หนังและรองเท้าเซฟตี้ผ้า ซึ่งทั้งสองประเภทนี้มีจุดเด่นและจุดด้อยที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ รองเท้าเซฟตี้หนังมักจะเป็นตัวเลือกยอดนิยมในงานที่ต้องการความทนทานและป้องกันแรงกระแทก หนังเป็นวัสดุที่แข็งแรง สามารถป้องกันน้ำ น้ำมัน สารเคมีบางชนิด และเศษวัสดุที่มีความคมได้ดี นอกจากนี้รองเท้าเซฟตี้หนังยังสามารถรองรับแรงกดทับหรือแรงกระแทกจากวัตถุหนักที่ตกลงมาบนเท้าได้ดี
การเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมยังขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเชิงเทคนิคและวัสดุ
ทำให้เหมาะกับงานก่อสร้าง งานโรงงาน หรือคลังสินค้าที่มีการเคลื่อนย้ายวัตถุหนักอย่างต่อเนื่อง ข้อดีอีกประการของรองเท้าเซฟตี้หนังคือความทนทานสูง ใช้งานได้นาน หากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี การทำความสะอาดและเคลือบน้ำมันหนังเป็นประจำสามารถยืดอายุการใช้งานได้หลายปี อย่างไรก็ตามรองเท้าเซฟตี้หนังอาจมีน้ำหนักมากกว่าและระบายอากาศได้น้อยกว่า ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกอึดอัดหรือร้อนในสภาพอากาศร้อน หรือเมื่อต้องใส่ตลอดทั้งวัน ในขณะที่รองเท้าเซฟตี้ผ้ามีจุดเด่นด้านความเบาและการระบายอากาศที่ดีกว่า จึงเหมาะกับงานที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน

เช่น งานบริการ งานซ่อมบำรุง หรือโรงงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุหนักและของมีคมมากนัก รองเท้าเซฟตี้ผ้าส่วนใหญ่ทำจากวัสดุสังเคราะห์หรือผ้าไนลอนที่มีความยืดหยุ่นสูง รองเท้าเซฟตี้ทำให้สวมใส่สบายและสามารถปรับเข้ากับรูปเท้าได้ง่าย แต่ข้อจำกัดของรองเท้าเซฟตี้ผ้าคือความทนทานต่อแรงกระแทก น้ำ น้ำมัน หรือสารเคมีบางชนิดอาจน้อยกว่ารองเท้าเซฟตี้หนัง ทำให้ไม่เหมาะกับงานก่อสร้างหรืออุตสาหกรรมหนักที่มีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บที่เท้า นอกจากนี้รองเท้าเซฟตี้ผ้าอาจสึกหรอเร็วกว่ารองเท้าหนัง หากใช้ในสภาพแวดล้อมที่ขรุขระหรือมีเศษวัสดุแหลมคม
การเลือกพื้นรองเท้ายังเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ พื้นยางหรือพื้น PU ของรองเท้า
การเลือกใช้รองเท้าเซฟตี้ให้เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับประเภทงาน สภาพแวดล้อม และความสะดวกสบายของผู้สวมใส่ หากงานของคุณมีความเสี่ยงต่อแรงกระแทก วัตถุหนัก น้ำมัน หรือสารเคมี รองเท้าเซฟตี้หัวเหล็กจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะความทนทานและการป้องกันสูงจะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บ แต่หากงานของคุณต้องเดินหรือยืนนาน มีความร้อนสูง หรือเน้นความคล่องตัว รองเท้าเซฟตี้ผ้าจะตอบโจทย์ด้านความสบายและระบายอากาศได้ดีกว่า
นอกจากนี้ยังควรพิจารณาเรื่องน้ำหนักและความยืดหยุ่นของรองเท้า การเลือกรองเท้าเซฟตี้ที่เบาและสวมใส่สบายสามารถช่วยลดความเมื่อยล้าและความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการยืนหรือเดินเป็นเวลานาน สรุปแล้วทั้งรองเท้าเซฟตี้หนังและผ้ามีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน รองเท้าเซฟตี้การตัดสินใจเลือกควรพิจารณาจากประเภทงาน ความเสี่ยงของสภาพแวดล้อม และความสะดวกสบายในการสวมใส่ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://safetybkk.com/